- รีวิวเทคโนโลยี
- ล่าสุด
รวมหูฟังไร้สาย 5 รุ่น ราคาไม่เกิน 2,000 กับคุณภาพเสียงคุ้มค่าเกินราคา
by Utech 4 Views
รวมหูฟังไร้สาย 5 รุ่น ราคาไม่เกิน 2,000 กับคุณภาพเสียงคุ้มค่าเกินราคา
หูฟังไร้สาย ได้กลายเป็นอุปกรณ์เสริมที่จำเป็นในชีวิตประจำวันของคนยุคดิจิทัล ทั้งสำหรับการดื่มด่ำกับเสียงเพลงคุณภาพสูง การรับชมภาพยนตร์และซีรีส์อย่างเต็มอรรถรส หรือการประชุมออนไลน์ที่ต้องการเสียงสนทนาคมชัด แต่การเลือกหูฟังไร้สายที่มีคุณภาพดี เสียงชัดเจน และฟีเจอร์ครบครันในงบประมาณจำกัดนั้น อาจเป็นความท้าทายสำหรับหลายคน ด้วยเหตุนี้ เราจึงได้คัดสรรหูฟังไร้สาย 5 รุ่น ราคาไม่เกิน 2,000 บาท ที่โดดเด่นด้วยคุณภาพเสียงระดับพรีเมียม พร้อมฟีเจอร์ทันสมัยและคุ้มค่าเกินราคา เพื่อเป็นตัวเลือกสำหรับผู้ที่กำลังมองหาหูฟังไร้สายคุณภาพเยี่ยมในราคาที่เอื้อมถึง
5 หูฟังไร้สายราคาประหยัด คุณภาพเกินคุ้ม
1. Redmi Buds 6
Redmi Buds 6 เป็น หูฟังไร้สาย รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Xiaomi ที่มอบประสบการณ์การฟังระดับพรีเมียมในราคาเข้าถึงได้ ตัวหูฟังโดดเด่นด้วยดีไซน์ทันสมัยเรียบหรู ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง น้ำหนักเบาเพียง 4.4 กรัมต่อข้างพร้อมจุกซิลิโคนที่ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ ทำให้สวมใส่สบาย กระชับ ไม่เมื่อยล้าแม้ใช้งานนาน มาพร้อมระบบเสียงคุณภาพสูงที่ผ่านการปรับแต่งโดยผู้เชี่ยวชาญ และเทคโนโลยีทันสมัยครบครันเพื่อการใช้งานทุกรูปแบบ
คุณสมบัติเด่นของ Redmi Buds 6
- คุณภาพเสียงที่ได้รับการปรับปรุง: Redmi Buds 6 มาพร้อมกับระบบ Dual Driver (ไดรเวอร์คู่) ประกอบด้วยไดรเวอร์ขนาด 12.4 มม. สำหรับเสียงเบสและกลาง และไดรเวอร์ Piezoelectric ขนาด 5.5 มม. สำหรับเสียงสูง ทำให้ได้เสียงที่คมชัด มีรายละเอียด และเบสที่หนักแน่น
- ระบบตัดเสียงรบกวน Hybrid ANC 49dB: หูฟังไร้สาย รุ่นนี้มีการอัปเกรดระบบตัดเสียงรบกวนแบบ Hybrid ที่สามารถลดเสียงรบกวนภายนอกได้สูงสุดถึง 49dB ช่วยให้คุณดื่มด่ำกับเสียงเพลงและการสนทนาได้อย่างเต็มที่
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน: Redmi Buds 6 สามารถใช้งานได้นานสูงสุด 10 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และเมื่อใช้งานร่วมกับเคสชาร์จ จะสามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 42 ชั่วโมง ทำให้คุณใช้งาน หูฟังไร้สาย ได้ตลอดวันโดยไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่
- ไมโครโฟนคู่พร้อม AI ENC: หูฟังไร้สาย รุ่นนี้มาพร้อมไมโครโฟนคู่คุณภาพสูงและระบบ AI ENC (Environmental Noise Cancellation) ที่ใช้เทคโนโลยีประมวลผลสัญญาณดิจิทัลขั้นสูง วิเคราะห์และกรองเสียงรบกวนแบบเรียลไทม์ ระบบสามารถแยกแยะและลดเสียงรบกวนได้หลากหลาย ทั้งเสียงลม เสียงรถยนต์ เสียงฝูงชน และเสียงรบกวนรอบข้าง ทำให้คู่สนทนาได้ยินเสียงของคุณชัดเจน แม้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดัง
- การเชื่อมต่อ Bluetooth 5.4: Redmi Buds 6 รองรับ Bluetooth 5.4 ที่มอบการเชื่อมต่อเสถียรและรวดเร็ว พร้อมประสิทธิภาพการส่งข้อมูลสูง ช่วยลดการหน่วงของเสียงและประหยัดพลังงาน นอกจากนี้ยังรองรับการเชื่อมต่อสองอุปกรณ์พร้อมกันผ่านฟีเจอร์ Dual Device Connection ทำให้สลับใช้งานระหว่างสมาร์ทโฟนและแล็ปท็อปได้อย่างราบรื่น
- รองรับ Spatial Audio 360°: หูฟังไร้สายรุ่นนี้มาพร้อมเทคโนโลยีเสียงรอบทิศทาง 360 องศา ให้ความรู้สึกเสมือนอยู่ท่ามกลางการแสดงสดหรือคอนเสิร์ต ระบบจะปรับแต่งเสียงตามการเคลื่อนไหวของศีรษะ ทำให้ทิศทางของเสียงเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับการดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่นเกม มอบประสบการณ์การรับฟังที่สมจริงและน่าประทับใจ
- มาตรฐาน IP54: ตัว หูฟังไร้สาย มีระบบป้องกันฝุ่นและน้ำมาตรฐาน IP54 ที่สามารถป้องกันฝุ่นละอองไม่ให้รบกวนการทำงาน และทนต่อน้ำกระเซ็นจากทุกทิศทาง ใช้งานได้อย่างมั่นใจในชีวิตประจำวัน ทั้งการเดินทาง การทำงานในออฟฟิศ และการออกกำลังกายเบาๆ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความเสียหายจากเหงื่อหรือละอองน้ำ
- สีที่มีให้เลือก: Deep Black, Pearl White, และ Lavender
- ราคา: 1,290 บาท
2. Huawei FreeBuds SE 3
Huawei FreeBuds SE 3 เป็นหูฟังไร้สายรุ่นใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมฟีเจอร์ครบครันในราคาที่คุ้มค่า โดดเด่นด้วยดีไซน์ทันสมัยที่ผ่านการออกแบบอย่างพิถีพิถัน มีน้ำหนักเบาเพียง 4.5 กรัมต่อข้าง ทำให้สวมใส่สบายแม้ใช้งานเป็นเวลานาน นอกจากนี้ยังมาพร้อมคุณภาพเสียงระดับพรีเมียมที่ผ่านการปรับแต่งมาอย่างดี ด้วยไดรเวอร์ขนาด 10mm ที่ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง ให้เสียงที่คมชัด กระชับ และสมดุลในทุกย่านความถี่ ไม่ว่าจะเป็นเสียงเบสที่หนักแน่น เสียงกลางที่อิ่มเอม หรือเสียงแหลมที่ใสกระจ่าง
คุณสมบัติเด่นของ Huawei FreeBuds SE 3
- ไดรเวอร์ขนาด 10mm ให้เสียงคมชัด: FreeBuds SE 3 มาพร้อมไดรเวอร์ขนาด 10mm ที่ได้รับการออกแบบพิเศษ ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูงและผ่านการปรับแต่งเสียงอย่างพิถีพิถัน ให้เสียงสมดุลในทุกย่านความถี่ เบสกระชับ หนักแน่น โดยไม่บดบังรายละเอียดของเสียงกลาง พร้อมเสียงแหลมที่ชัดเจน สดใส และให้รายละเอียดครบถ้วน จึงรองรับการฟังเพลงได้ทุกแนว และรองรับ codec AAC ที่ให้คุณภาพเสียงระดับ HD
- ระบบตัดเสียงรบกวนอัจฉริยะ: มาพร้อมเทคโนโลยี AI Noise Cancellation ที่ใช้ไมโครโฟนคู่และ AI ในการกรองเสียงรบกวนรอบข้างระหว่างการสนทนา ช่วยให้คู่สนทนาได้ยินเสียงของคุณชัดเจนแม้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดัง
- แบตเตอรี่: จุดเด่นที่สำคัญคือแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานสูงสุดถึง 42 ชั่วโมงเมื่อใช้ร่วมกับเคสชาร์จ ทำให้คุณใช้งาน หูฟังไร้สาย ได้ตลอดวันโดยไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่
- ดีไซน์: FreeBuds SE 3 มาพร้อมดีไซน์ที่ทันสมัย น้ำหนักเบาเพียง 4.5 กรัมต่อข้าง รูปทรงโค้งมนที่สวมใส่สบาย และจุกซิลิโคนที่มีให้เลือก 3 ขนาด ช่วยให้สวมใส่ได้กระชับและใช้งานได้ยาวนาน เคสชาร์จมีขนาดกะทัดรัด พกพาสะดวก
- การเชื่อมต่อ: FreeBuds SE 3 รองรับ Bluetooth 5.4 ซึ่งมอบการเชื่อมต่อที่เสถียร จับคู่ได้รวดเร็ว และประหยัดพลังงาน นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Fast Pair สำหรับเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Android อย่างรวดเร็ว และสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้พร้อมกันถึง 2 เครื่อง
- สีที่มีให้เลือก: Glacier White, Carbon Black, และ Sky Blue
- ราคา: 1,490 บาท
3. Realme Buds Air 6
Realme Buds Air 6 เป็นหูฟังไร้สายรุ่นล่าสุดที่มาพร้อมฟีเจอร์ครบครันในราคาที่คุ้มค่า โดดเด่นด้วยระบบตัดเสียงรบกวน ANC ที่มีประสิทธิภาพสูง และคุณภาพเสียงระดับพรีเมียมด้วยไดรเวอร์ขนาด 12.4 มม. ที่ให้เสียงทุ้มลึก กังวาน พร้อมเสียงแหลมที่คมชัด เหมาะสำหรับการฟังเพลงทุกแนว
- คุณสมบัติเด่น: มาพร้อมไดรเวอร์ขนาด 12.4 มม. และฟังก์ชัน Dynamic Bass Boost+ ที่เพิ่มความหนักแน่นของเสียงเบส และโหมด Transparency Mode ที่ช่วยให้ได้ยินเสียงรอบข้างได้ชัดเจนขึ้น และรองรับ Hi-Res Audio และ LDAC codec ทำให้ได้คุณภาพเสียงที่ดีเยี่ยม
- Active Noise Cancellation (ANC): มาพร้อมระบบตัดเสียงรบกวนขั้นสูงที่ลดเสียงรบกวนจากภายนอกได้สูงสุด 50dB ด้วยเทคโนโลยีประมวลผลสัญญาณดิจิทัลที่ทันสมัย ช่วยให้คุณดื่มด่ำกับเสียงเพลงหรือการสนทนาได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ถูกรบกวนจากเสียงแวดล้อม ทั้งเสียงการจราจร เสียงพูดคุย และเสียงรบกวนทั่วไป
- โหมด Transparency: ฟีเจอร์พิเศษที่ช่วยให้ได้ยินเสียงรอบข้างชัดเจนโดยไม่ต้องถอดหูฟัง ไมโครโฟนจะรับเสียงจากภายนอกเข้ามา ทำให้ได้ยินทั้งเสียงเพลงและเสียงแวดล้อมไปพร้อมกัน เหมาะสำหรับการสนทนา เดินทาง หรือทำกิจกรรมกลางแจ้งที่ต้องการความปลอดภัย เปิด-ปิดได้ง่ายเพียงแตะที่หูฟังครั้งเดียว
- แบตเตอรี่: ใช้งานได้ต่อเนื่องนานถึง 6 ชั่วโมงต่อการชาร์จ และเมื่อใช้ร่วมกับเคสชาร์จสามารถใช้งานได้สูงสุด 35 ชั่วโมง พร้อมระบบชาร์จเร็วที่ชาร์จเพียง 15 นาทีใช้งานได้ 2 ชั่วโมง รองรับการชาร์จแบบไร้สายตามมาตรฐาน Qi
- ดีไซน์: มาพร้อมดีไซน์ที่ทันสมัย น้ำหนักเบาเพียง 4.8 กรัม ตัวหูฟังมีรูปทรงโค้งมนที่สวมใส่สบาย ไม่เจ็บหูแม้ใส่เป็นเวลานาน พร้อมการกันน้ำระดับ IPX5 ที่ช่วยปกป้องหูฟังจากละอองน้ำและเหงื่อ เหมาะสำหรับการใช้งานขณะออกกำลังกาย
- สีที่มีให้เลือก: Glacier Blue, Jet Black, และ Pure White
- ราคา: 1,690 บาท
4. SoundPeats Air5 Lite
SoundPeats Air 5 Lite เป็น หูฟังไร้สาย รุ่นใหม่ที่พัฒนาขึ้นเพื่อมอบประสบการณ์เสียงระดับพรีเมียมในราคาคุ้มค่า ตัวหูฟังมาพร้อมระบบตัดเสียงรบกวนแบบไฮบริดที่ใช้ไมโครโฟนทั้งภายนอกและภายใน ช่วยกรองเสียงรบกวนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้านคุณภาพเสียง ไดรเวอร์ขนาดใหญ่ที่ได้รับการปรับแต่งพิเศษให้เสียงทุ้มแน่น กระชับ พร้อมเสียงแหลมที่คมชัด สดใส และมีมิติ เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาหูฟังคุณภาพสูงในราคาที่เอื้อมถึง
- คุณสมบัติเด่น: มาพร้อมไดรเวอร์ขนาด 13 มม. และเทคโนโลยี Hybrid Active Noise Cancellation ที่ลดเสียงรบกวนได้สูงสุด 35dB และรองรับ codec aptX Adaptive รองรับ Hi-Res Audio และ LDAC codec ทำให้ได้รายละเอียดเสียงที่ดี
- ไมโครโฟน: มาพร้อมไมโครโฟนคู่พร้อมเทคโนโลยี AI Noise Reduction ที่ช่วยกรองเสียงรบกวนระหว่างการสนทนา ทำให้เสียงสนทนาชัดเจน เหมาะสำหรับการประชุมออนไลน์หรือการโทรศัพท์
- ไมโครโฟน: มาพร้อมไมโครโฟนคู่คุณภาพสูงที่ใช้เทคโนโลยี AI Noise Reduction ที่ทันสมัย ระบบวิเคราะห์และกรองเสียงรบกวนแบบเรียลไทม์ขณะสนทนา แยกแยะเสียงพูดและเสียงรบกวนรอบข้างได้แม่นยำ ทำให้เสียงสนทนาชัดเจน คมชัด ปราศจากเสียงรบกวน เหมาะสำหรับการประชุมออนไลน์ การโทรศัพท์ หรือการบันทึกเสียง แม้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดัง
- การเชื่อมต่อ: รองรับ Bluetooth 5.4 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีไร้สายล่าสุดที่มอบประสิทธิภาพสูงทั้งด้านความเสถียรและความเร็วในการรับส่งข้อมูล นอกจากนี้ยังมี Multipoint Connection ที่ช่วยให้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ 2 เครื่องพร้อมกันได้ ทำให้สลับการใช้งานระหว่างอุปกรณ์ได้อย่างราบรื่นโดยไม่ต้องจับคู่ใหม่
- แบตเตอรี่: ใช้งานได้ต่อเนื่องนานถึง 7 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และเมื่อใช้ร่วมกับเคสชาร์จสามารถใช้งานได้สูงสุด 30 ชั่วโมง มาพร้อมระบบชาร์จเร็วที่ชาร์จเพียง 10 นาทีใช้งานได้ 2 ชั่วโมง รองรับการชาร์จผ่าน USB Type-C
- ดีไซน์: มาพร้อมรูปทรงที่ทันสมัย น้ำหนักเบาเพียง 4.4 กรัม พร้อมการกันน้ำระดับ IPX4 ที่ช่วยปกป้องหูฟังจากละอองน้ำและเหงื่อ ตัวหูฟังออกแบบมาให้กระชับและสวมใส่สบาย มาพร้อมจุกซิลิโคน 3 ขนาดให้เลือกใช้ตามความเหมาะสม
- สีที่มีให้เลือก: Black และ Cream
- ราคา: 1,790 บาท
5. Sony WH-CH520
Sony WH-CH520 เป็นหูฟังครอบหูไร้สายที่มอบคุณภาพเสียงระดับพรีเมียมน่าประทับใจ ด้วยไดรเวอร์ขนาด 30 มม. ที่ออกแบบมาพิเศษเพื่อให้เสียงสมดุล ทั้งเสียงทุ้มที่ลึกกระชับและเสียงแหลมที่คมชัดสดใส การแยกแยะมิติของเสียงชัดเจน ทำให้ได้ยินรายละเอียดของเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นอย่างแจ่มชัด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหูฟังครอบหูคุณภาพดีที่ให้ประสบการณ์การฟังเพลงระดับพรีเมียมในราคาที่จับต้องได้
- คุณสมบัติเด่น: มาพร้อมไดรเวอร์ขนาด 30 มม. และเทคโนโลยี DSEE (Digital Sound Enhancement Engine) ที่ช่วยปรับปรุงคุณภาพเสียงให้ดีขึ้น รองรับ multipoint connection สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้ 2 เครื่องพร้อมกัน
- ไมโครโฟน: มาพร้อมไมโครโฟนคุณภาพสูงที่ติดตั้งในตัวหูฟัง ใช้เทคโนโลยี AI ตัดเสียงรบกวนขั้นสูง วิเคราะห์และแยกแยะเสียงพูดจากเสียงรบกวนรอบข้างแบบเรียลไทม์ ทำให้เสียงสนทนาชัดเจน คมชัด และเป็นธรรมชาติ แม้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดัง เหมาะสำหรับการโทรศัพท์ การประชุมออนไลน์ และการสนทนาทุกรูปแบบ
- การเชื่อมต่อ: รองรับ Bluetooth 5.2 พร้อมระยะการเชื่อมต่อที่ไกลถึง 10 เมตร มาพร้อมความสามารถในการเชื่อมต่อแบบ Multipoint ที่สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้ 2 เครื่องพร้อมกัน ทำให้สลับการใช้งานระหว่างสมาร์ทโฟนและแล็ปท็อปได้อย่างราบรื่น
- ดีไซน์: ออกแบบมาให้สวมใส่สบายด้วยน้ำหนักเบาเพียง 147 กรัม แถบคาดศีรษะปรับระดับได้และบุด้วยวัสดุนุ่ม ฟองน้ำรองหูทำจากวัสดุคุณภาพดีที่ระบายอากาศได้ดี เหมาะสำหรับการใส่ฟังเพลงหรือทำงานเป็นเวลานาน พับเก็บได้ง่ายสะดวกต่อการพกพา
- การควบคุม: มีปุ่มควบคุมใช้งานง่ายบนตัวหูฟัง พร้อมปุ่มมัลติฟังก์ชันที่ครอบคลุมการใช้งานหลัก ทั้งการปรับระดับเสียง เล่น-หยุดเพลง ข้ามเพลงไปข้างหน้า-ย้อนกลับ และรับ-วางสาย นอกจากนี้ยังรองรับการสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Google Assistant และ Siri ทำให้ควบคุมการทำงานได้โดยไม่ต้องหยิบโทรศัพท์
- สีที่มีให้เลือก: Pink, Yellow, Black, Blue, White และ Beige
- ราคา: 1,990 บาท
สรุป
จากการรวบรวม หูฟังไร้สาย ทั้ง 5 รุ่นข้างต้น แม้จะมีราคาไม่เกิน 2,000 บาท แต่ทุกรุ่นมาพร้อมคุณสมบัติครบครัน ทั้งคุณภาพเสียงที่เทียบเท่ารุ่นราคาสูง แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนาน และฟีเจอร์ทันสมัยที่ตอบโจทย์การใช้งานปัจจุบัน อาทิ Bluetooth เวอร์ชันล่าสุด ระบบตัดเสียงรบกวน และการเชื่อมต่อหลายอุปกรณ์ นับเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับผู้ที่ต้องการหูฟังคุณภาพดีในราคาที่จับต้องได้ การเลือกซื้อขึ้นอยู่กับการใช้งานและไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน ทั้งแบบ True Wireless ที่พกพาสะดวกเหมาะสำหรับใช้งานนอกสถานที่ หรือแบบครอบหูที่ให้ความสบายในการฟังเพลงยาวนาน