- รีวิวเทคโนโลยี
- ล่าสุด
5 วิธีทดสอบเสียงหูฟัง ก่อนเลือกซื้อ ให้ได้เสียงที่ใช่สำหรับเรา
by Utech 4 Views
การเลือกซื้อหูฟังสักคู่อาจเป็นเรื่องที่ทำให้ปวดหัวไม่น้อย เพราะนอกจากจะต้องดูฟังก์ชันการใช้งาน ดีไซน์ และราคาแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือคุณภาพเสียงที่เราจะได้รับ ใครที่อยากลองหาหูฟังที่ใช่หรือให้ความสำคัญในเรื่องของเสียงจริง ๆ เราขอแนะนำให้ไปลองเทสที่ร้านจะดีที่สุด และถ้ายังไม่รู้ว่าไปลองที่ร้านแล้วจะเทสยังไง ไม่ต้องกังวลไป ในวันนี้เราจะมาแนะนำ 5 วิธีทดสอบเสียงหูฟังก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ เพื่อให้เราได้หูฟังที่ถูกใจและคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปมากที่สุด
5 วิธีทดสอบเสียงหูฟังก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ ให้ได้เสียงที่ถูกใจ
ทดสอบด้วยเพลงที่เราคุ้นเคย
วิธีแรกและง่ายที่สุดในการทดสอบคุณภาพเสียงของหูฟัง คือการฟังเพลงที่เรารู้จักดี เพลงที่เราฟังบ่อยๆ จนจำได้ว่าควรจะมีเสียงแบบไหน ทำไมถึงต้องเป็นเพลงที่เราคุ้นเคย ก็เพราะว่าเราจะสามารถเปรียบเทียบคุณภาพเสียงที่ได้ยินจากหูฟังใหม่กับประสบการณ์ที่เราเคยได้ยินมาก่อนได้ทันที
วิธีการทดสอบ
ลองเลือกเพลงที่มีความหลากหลายทางดนตรี เช่น
- เพลงที่มีเสียงเบสหนักๆ เพื่อทดสอบการตอบสนองของเสียงต่ำ
- เพลงคลาสสิกที่มีเครื่องดนตรีหลายชิ้น เพื่อดูว่าหูฟังสามารถแยกแยะเสียงแต่ละชิ้นได้ดีแค่ไหน
- เพลงที่มีเสียงร้องชัดเจน เพื่อทดสอบความชัดของเสียงกลาง
- เพลงร็อคหรือเมทัลที่มีกีตาร์และกลองหนักๆ เพื่อดูว่าเสียงแหลมไม่แตกพร่า
- ขณะที่ฟัง ให้สังเกตว่าเสียงที่ได้ยินมีความสมดุลไหม เสียงเบสชัดเจนแต่ไม่บดบังเสียงอื่นหรือเปล่า เสียงร้องฟังง่ายและธรรมชาติไหม และที่สำคัญคือ เราชอบโทนเสียงโดยรวมของหูฟังคู่นี้หรือเปล่า
ทดสอบด้วยเพลงหลากหลายแนว
หลังจากที่เราได้ลองฟังเพลงที่คุ้นเคยแล้ว ขั้นต่อไปคือการทดสอบด้วยเพลงหลากหลายแนว ทำไมต้องทำแบบนี้ เพราะหูฟังแต่ละรุ่นอาจจะเหมาะกับดนตรีบางประเภทมากกว่าอื่นๆ การฟังเพลงหลายๆ แนวจะช่วยให้เราเห็นภาพรวมของประสิทธิภาพหูฟังได้ดีขึ้น
วิธีการทดสอบ
ลองฟังเพลงในแนวต่าง ๆ ดังนี้
- Pop/Rock ดูว่าหูฟังสามารถถ่ายทอดพลังและอารมณ์ของดนตรีได้ดีแค่ไหน
- Jazz ทดสอบความละเอียดของเสียงเครื่องดนตรี โดยเฉพาะเสียงเปียโนและแซกโซโฟน
- Classical ดูว่าหูฟังสามารถสร้าง Soundstage (ความกว้างของเวทีเสียง) ได้ดีไหม
- Electronic/EDM ทดสอบการตอบสนองของเสียงเบสและความคมชัดของเสียงสังเคราะห์
- Acoustic ฟังความเป็นธรรมชาติของเสียงเครื่องดนตรีและน้ำเสียงของนักร้อง
- Hip-hop/R&B ดูว่าหูฟังสามารถถ่ายทอดจังหวะและเสียงเบสที่หนักแน่นได้ดีไหม
ขณะที่ฟัง ให้สังเกตว่าหูฟังสามารถปรับตัวให้เข้ากับแนวเพลงที่แตกต่างกันได้ดีแค่ไหน มีแนวเพลงไหนที่ฟังแล้วรู้สึกว่าไม่เข้ากับหูฟังเลย หรือมีแนวเพลงไหนที่ฟังแล้วรู้สึกว่าหูฟังถ่ายทอดออกมาได้ดีเป็นพิเศษ การทดสอบแบบนี้จะช่วยให้เราเห็นจุดแข็งและจุดอ่อนของหูฟังได้ชัดเจนขึ้น
ทดสอบด้วยเสียงพูดและพอดแคสต์
นอกจากการฟังเพลงแล้ว อีกหนึ่งวิธีที่ช่วยในการทดสอบคุณภาพเสียงของหูฟังคือการฟังเสียงพูดและพอดแคสต์ ทำไมถึงต้องลองฟังเสียงพูดด้วย เพราะว่าเสียงพูดเป็นเสียงที่เราคุ้นเคยที่สุด และสามารถบอกได้ง่ายว่าฟังธรรมชาติชัดเจนไหม
วิธีการทดสอบ
- เลือกพอดแคสต์หรือคลิปวิดีโอที่มีคนพูดชัดๆ
- ฟังด้วยความตั้งใจและสังเกตความชัดเจนของเสียงพูด เราสามารถได้ยินทุกคำพูดอย่างชัดเจนหรือไม่ เสียงที่ได้ยินฟังดูเหมือนคนจริงๆ พูดหรือเปล่า หรือฟังดูเหมือนหุ่นยนต์ เราสามารถรับรู้ถึ
- น้ำเสียงและอารมณ์ของผู้พูดได้ดีแค่ไหน ที่สำคัญมีเสียงรบกวนแทรกเข้ามาหรือไม่ โดยเฉพาะในช่วงเงียบ
การทดสอบด้วยเสียงพูดนี้จะช่วยให้เราเห็นว่าหูฟังสามารถถ่ายทอดเสียงกลางได้ดีแค่ไหน ซึ่งเป็นย่านความถี่ที่สำคัญมากสำหรับการฟังเพลงและการใช้งานทั่วไป
ทดสอบความสามารถในการแยกแยะเสียง
ความสามารถในการแยกแยะเสียงเป็นอีกหนึ่งคุณสมบัติสำคัญของหูฟังคุณภาพดี การทดสอบนี้จะช่วยให้เราเห็นว่าหูฟังสามารถแยกแยะเสียงเครื่องดนตรีแต่ละชิ้น หรือเสียงจากแหล่งกำเนิดต่างๆ ได้ชัดเจนแค่ไหน
วิธีการทดสอบ
- เลือกเพลงที่มีเครื่องดนตรีหลายชิ้นหรือมีการผสมผสานเสียงที่ซับซ้อน เช่น เพลงออร์เคสตร้าคลาสสิก เพลงแจ๊สที่มีการด้นสดของเครื่องดนตรีหลายชิ้น หรือเพลงร็อคที่มีกีตาร์หลายตัว กลอง และเบส
- ฟังอย่างตั้งใจและลองพยายามแยกแยะเสียงเครื่องดนตรีแต่ละชิ้น สังเกตว่าเราสามารถได้ยินรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของแต่ละเครื่องดนตรีได้ไหม เช่น เสียงนิ้วเลื่อนบนสายกีตาร์ ลองโฟกัสที่เครื่องดนตรีชิ้นใดชิ้นหนึ่ง และดูว่าเราสามารถติดตามเสียงนั้นได้ตลอดทั้งเพลงหรือไม่
ทดสอบความถี่เสียง
การทดสอบความถี่เสียงเป็นวิธีที่ช่วยให้เราเข้าใจว่าหูฟังสามารถถ่ายทอดเสียงในย่านความถี่ต่างๆ ได้ดีแค่ไหน โดยปกติแล้ว หูมนุษย์สามารถได้ยินเสียงในช่วงความถี่ประมาณ 20 Hz ถึง 20,000 Hz การทดสอบนี้จะช่วยให้เราเห็นว่าหูฟังสามารถถ่ายทอดเสียงได้ครอบคลุมทุกย่านความถี่ไหม
วิธีการทดสอบ
1. หาเพลงหรือคลิปเสียงที่มีการทดสอบความถี่ (Frequency Sweep Test) ซึ่งจะเล่นเสียงตั้งแต่ความถี่ต่ำสุดไปจนถึงความถี่สูงสุดที่มนุษย์สามารถได้ยิน สามารถหาได้บน YouTube หรือแอปพลิเคชันทดสอบหูฟัง
2. ฟังอย่างตั้งใจและสังเกตสิ่งต่อไปนี้
- เสียงทุ้มต่ำ (20-250 Hz) เราสามารถได้ยินเสียงทุ้มลึกได้ชัดเจนหรือไม่ เสียงสั่นสะเทือนรบกวนหรือเปล่า
- เสียงกลางต่ำ (250-500 Hz) เสียงในช่วงนี้ฟังดูอบอุ่นและเต็มไปด้วยพลังไหม
- เสียงกลาง (500-2,000 Hz) เสียงในช่วงนี้ชัดเจนและฟังง่ายหรือเปล่า
- เสียงกลางสูง (2,000-4,000 Hz) มีความคมชัดของเสียงหรือไม่ ระวังไม่ให้แหลมเกินไปจนรบกวนหู
- เสียงแหลมสูง (4,000-20,000 Hz) สามารถได้ยินรายละเอียดของเสียงแหลมได้ดีหรือไม่ โดยไม่รู้สึกแสบหู
นอกจากคุณภาพเสียงแล้ว อย่าลืมพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ประกอบด้วย เช่น
- ความสบายในการสวมใส่ ลองสวมหูฟังเป็นเวลานานๆ เพื่อดูว่ารู้สึกอึดอัดหรือไม่
- การใช้งานในชีวิตประจำวัน พิจารณาว่าเราจะใช้หูฟังในสถานการณ์ใดบ้าง เช่น ขณะเดินทาง ทำงาน หรือออกกำลังกาย
- คุณสมบัติพิเศษ เช่น ระบบตัดเสียงรบกวน การเชื่อมต่อไร้สาย หรือไมโครโฟนสำหรับการโทร
- งบประมาณ กำหนดงบประมาณที่เหมาะสม แต่อย่าลืมว่าหูฟังคุณภาพดีอาจเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว
การเลือกซื้อหูฟังไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ด้วย 5 วิธีทดสอบเสียงหูฟังที่เราได้แนะนำไป เราจะสามารถเลือกหูฟังที่เหมาะกับความต้องการและรสนิยมของเราได้ดีมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการฟังเพลงที่เราคุ้นเคย การลองฟังเพลงหลากหลายแนว การทดสอบด้วยเสียงพูดและพอดแคสต์ การทดสอบความสามารถในการแยกแยะเสียง และการทดสอบความถี่เสียง สิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้คือ ไม่มีหูฟังที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน แต่มีหูฟังที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเรา การทดลองฟังด้วยตัวเองและใช้เวลาในการเปรียบเทียบจะช่วยให้เราตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้น